Ducati ยอดฮิตในไทยที่หลายคนหมายปอง

Ducati

แน่นอนว่าปัจจุบันนี้ มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ มีหลายรุ่นหลายแบรนด์ ที่เหล่านักบิดทั่วทุกมุมโลกเลือกมาครองไม่ว่าจะเป็น honda Yamaha Kawasaki แต่เรามาสะดุดกัน 1 แบรนด์ ที่มาจากแดนมักกะโรนี อย่างเจ้า ducati ที่มีคนหมายครอบครองไม่น้อย

ด้วยเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเครื่องสอง 2 สูบ l-twin ที่ใครก็รู้เมื่อได้ยินเสียงมันคือเจ้า ducati อีกทั้งเสน่ห์ของเสียงคลัทช์แห้ง ที่ผู้คนต่างหลงใหลมันด้วยเสียง “กริ๊ง กริ๊ง “เวลากำคลัทช์ไว้ทำให้ได้ยินเสียงแล้วจะไม่มองก็ไม่ได้ แล้ววันนี้เราจะมาพูดถึง 5 รุ่น ducati ที่เหล่าสหายนักบิดประเทศไทยฮิตครอบครอง

รุ่นที่ 1. Ducati monster 795

ถ้านึกถึง Ducati ที่เหล่าไบค์เกอร์เมืองไทยฮิตคง ไม่นึกถึงเจ้า 795 ไมได้เพราะเป็นรหัสซีรีส์ที่พูดถึง เป็นอันดับแรก ด้วยดีไซร์ที่เป็นเน็กเก็ตไบค์ หมุนเวลากลับเมื่อ 10 ปีก่อน รถมอเตอร์ไซค์จากแดนยุโรป ได้เดินทางมาถึงไทยด้วยค่าตัวที่ค่อนข้างแพง จนกระทั่งตุลาคมปี 2011 Ducati monster 795 รุ่นปี 2012 ก็เปิดความงดงามออกมา ด้วยที่เด็ดกว่านั้นคือค่าตัวอยู่ที่ 400.000 บาท ทำเอาแฟนๆ Ducati หลายๆ คนใจบางไม่น้อยกันเลย ด้วยเสียงและความแรงของเครื่องยนต์ 2 สูบ l-twin desmodromic แบบ 4 วาล์ว 802 ซีซี แรงม้า 86 แรงม้า ที่ 8250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 78 นิวตันเมตร ที่ 6250 รอบต่อนาที นับว่าเป็นเครื่องที่ขี่มันสนุกสุด ๆ ระบายความร้อนด้วยอากาศด้วยเอกลักษณ์นี้ อาจจะเป็นปัญหากับเมืองไทยอยู่ไม่น้อย แต่ไม่ใช่ปัญหาของแฟน ๆ แน่นอน เป็นอีก 1 รุ่นที่ฮิตในเมืองไทย

รุ่นที่ 2.Ducati Hypermotard 939

อีก 1 ตัวตึงจากแดนมักกะโรนี เจ้า hypermotard ที่ทาง Ducati เกิดแรงบันดาลใจคอนเซ็ปสายลุยแบบวิบากจึงได้เปิดตัวรุ่นแรก รหัส hyper 796 กับ 1100 ในปี 2008 พร้อมกับตัวพิเศษอย่าง 1100 sp เป็นรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ Desmodue ระบายความร้อนด้วยอากาศเช่นเคย แล้วต่อมาในปี 2013 ได้ออกตัวรหัส 821 มาในโมเดลนี้อย่างที่รู้กันว่า Hyper เป็นรุ่นที่สูงมากเลยไม่ถูกใจคนไทย จนกระทั่งตัวตึงรหัส 939 ด้วยสินสอดที่ 515.000 บาท ปรับเครื่องยนต์ ให้ใหญ่ขึ้นเป็น 937 ซีซีด้วยที่ว่ารหัส 939 มีการปรับความสูงของโช๊คให้ลงมาอีก ทำให้ถูกสายเอเชีย อย่างเราเลย เครื่องยนต์ที่ปรับเปลี่ยนเป็น l-twin Testastretta 11 องศา 2 สูบ 4 วาล์วต่อ แรงม้ามาถึง 114 ตัว แรงบิดสูงถึง 96 นิวตันเมตรที่ 7250 รอบต่อนาทีเรียกได้ว่าตึงกันไปเลย และอุปกรณ์ติดรถอีกมากมายทั้งเบรก Brembo หน้าปัด ดิจิตอล แล้วออฟชั่นอีกมากมายจึงเป็นอีก 1 รุ่นที่ตัวตึง แล้วฮิตในเมืองไทยนั่นเอง

รุ่นที่ 3. Ducati scrambler 800

มาที่หนุ่มสายชิว วินเทจมาสเซอร์ ต้องหลงใหล กับเจ้า Ducati scrambler ที่มีหลากหลายตัวให้เลือกทั้ง icon urbuan enduro classic และ Full throttle ที่มีการออกแบบไฟหน้ากลมแบบคลาสิก ที่ไม่ว่าวัยเก๋าวัยมันก็ขี่มันได้ด้วยค่าตัวเริ่มต้นที่ 369.000 บาท ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 สูบ l-twin Desmodromic 803 ซีซี 2 วาล์ว 75 แรงม้า กับแรงบิด 68 นิวตันเมตร เห็นคลาสิกแบบนี้แต่ความแรงไม่ธรรมดา เป็นอีก 1 รุ่นที่วัยเก๋านิยมด้วยการขับขี่ที่ง่ายแล้วน้ำหนักของรถที่เบาแล้วเท่ขับช้าให้คนมองก็เท่แล้ว อีก 1 รุ่นที่เมืองไทยฮิตแล้วเหล่า นักบิดไม่พลาดที่จะสะสมแล้วครอบครอง

รุ่นที่ 4. Ducati panigale 899

อีก 1 ตัวสุดตึงที่ฮิตในไทยแล้วทั่วประเทศ panigale 899 สปอร์ตไบค์จากแดนมักกะโรนี 899 เป็นโมเดลที่ประกอบที่ประเทศไทย เปิดตัวด้วยราคาสินสอดที่ 749.000 บาท พร้อมที่เด็ดอย่างชุดท่อ slip-on จาก termignoni ที่ได้ร่วมกับดูคาติดมาเป็นเวลานาน เจ้า 899 นั่นเป็นแนวสปอร์ตความเร็ว ที่มาความบ้าพลังจากรุ่นพี่อย่าง 1199 สู่รุ่นน้องโดยเจ้า 899 นั่นเครื่องยนต์ได้พัฒนาขึ้นมาใหม่ เป็น superquadro ตัวใหม่ที่รีดแรงม้าถึง 148 แรงม้า ที่ 10750 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด 99 นิวตันเมตร ที่ 9000 รอบต่อนาที เรียกได้ว่าบ้าคลั่งสุด ๆ กับการออกแบบที่หรูหราหลบซ่อนความบ้าพลังไว้ในตัว แล้วน้ำหนักรถที่เบา กับออฟชั่นครบ ๆ อีกเพียบจึงเป็นอีก 1 ตัวสุดตึงสุดฮิตในไทย ที่วัยรุ่นวัยแรงนิยมขี่ยังไงก็หล่อ

รุ่นที่ 5. Ducati Multistrada 1200s

มาถึงตำนานของ Ducati ที่มาความงดงามมาถึงเกือบ 15 ปี กับเจ้า Multistrada ใครเป็นสายท่องเที่ยวเดินทางต้องถูกใจแน่นอน เพราะเจ้า Multi ถูกออกแบบมาด้วยสปอร์ตทั่วริ่ง ที่สามารถพาผู้ขับขี่ไปได้ทุกสภาพตลอดการเดินทาง สุดฮิตของประเทศไทยคงหนีไม่พ้น Multistrada 1200s ที่เปิดตัวเมื่อปี 2015 ด้วยค่าตัว 1.490.000 บาท กับดีไซน์ทั้งแรงหรูหราอยู่ด้วยกัน multistrada 1200 s มาพร้อมกับเครื่องยนต์ testastretta 11 ขนาด 1198 ซีซี แจกแรงม้ามาถึง 160 แรงม้า ที่ 9500 รอบต่อนาที แรงบิดให้มาถึง 136 นิวตันเมตรที่ 7500 รอบต่อนาที อีกทั้งมากับระบบมากมายที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้งานได้สะดวกสบาย ที่โหมดมาให้สัมผัสกันถึง 4 โหมด ได้แก่ โหมด SPORT TOURING URBUN กับ ENDURO พร้อมกับระบบล็อกความเร็วครูสคอนโทล อีกทั้งระบบอีกเพียบ เพื่อเอาใจสายเดินทางท่องเที่ยว ที่ชอบใช้การเดินทางด้วย 2 ล้อ ที่พร้อมปะทะสายลมสายหมอกสุดฟิน จึงเป็นอีก 1 รุ่นที่ฮิตในประเทศไทยที่มีที่ท่องเที่ยวที่สวยงามที่พร้อมให้คุณได้ควบ 2 ล้อคู่ใจได้ไปสัมผัสธรรมชาติ ถูกใจสายท่องเที่ยวอย่างแน่นอน